แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว


แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ในสัตหีบ + พัทยา
 (ด้วยวิธีเดินทางกับรถ ตู้โดยสาร สัตหีบเพชรรุ่งเรือง)

การเดินทางไปช่องแสมสาร

แผนที่เดินทางแสมสาร

ให้ลงรถตู้ ที่ สัตหีบ กิโล 1 หรือ กิโล 6 ก็ได้ เพื่อ รอต่อรถสองแถวสีฟ้า


และสามารถใช้วิธีเดินทางเดียวกันนี้ กับสถานที่เหล่านี้

หาดนางรำ




หาดนางรำ


หาดนางรำ + หาดนางรอง อาจจะต้องเหมาสองแถวต่อเข้าไปอีกหน่อยนะครับ


เกาะขาม


เกาะขาม 
บัตรปกติ (ผู้ใหญ่) คนละ 200 บาท 
บัตรพิเศษ (เด็ก อายุไม่เกิน 13 ปี) คนละ 150 บาท
ค่าเช่าอุปกรณ์ดำน้ำ (หน้ากาก/เสื้อชูชีพ) ชุดละ 50 บาท ( ถ้าใครไม่ดำน้ำ ก็ไม่ต้องจ่ายค่าตั๋วอุปกรณ์นี้ครับ แต่ผมว่าไหน ๆ ก็เล่นน้ำแล้ว ก็ดำน้ำไปด้วยดีกว่าครับ )
ค่าเสื่อปูนั่งชายหาด ฟรี
ค่าท่องเรือท้องกระจกดูปะการัง ฟรี
ค่าเตียงผ้าใบ 20 บาท (แล้วแต่ว่าจะนั่งเตียงหรือไม่นะครับ ถ้านั่งต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ครับ เพราะเขาจะไม่มีกางโชว์ไว้ครับ )
ค่าห้องน้ำอาบน้ำ และสุขา ฟรี
บนเกาะจะมีอาหารไว้บริการครับ แต่เป็นอาหารเบา ๆ เช่นมาม่า ลูกชิ้น ขนมปัง

เที่ยวเรือ

เที่ยวไปเกาะ                                     เที่ยวกลับฝั่ง
เที่ยวที่ 1      09.00 น.                           เที่ยวที่ 1       13.00 น.
เที่ยวที่ 2      10.00 น.                           เที่ยวที่ 2       14.00 น.
เที่ยวที่ 3      11.00 น.                           เที่ยวที่ 3       15.00 น.


กิจกรรมบนเกาะขาม
ดำน้ำ , นั่งเรือท้องกระจกดูประการัง , ปีนเขาไปชมจุดชมวิว , พายเรือพายัค

ข้อห้ามและข้อระวังบนเกาะขาม
ห้ามสัมผัสกับปะการัง และ ปลิงทะเล เนื่องจาก เวลาที่เราไปสัมผัสปะการังนั้น มือของเราอาจจะมีเม็ดทรายติดอยู่ซึ่งอาจจะไปทำให้ปะการังเกิดการอุดตันและไม่สามารถหาอาหารได้
ห้ามนำหินหรือเปลือกหอยกลับบ้าน
ห้ามใช้สารเคมีบนเกาะ เช่น ยาสระผม, สบู่อาบน้ำ เพราะเป็นการเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติครับ
ห้ามลงเล่นน้ำตรงชายหาดด้านหลัง และ ด้านข้างที่มีสะพานไม้เดินข้ามไปครับ เพราะว่าเนื่องจากหาดด้านหลังจะเป็นหินโสโครกเยอะ ทำให้หินมีความคม และอาจจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยวได้ครับ ส่วนด้านข้างที่มีสะพานข้ามไปนั้น ใต้ทะเลจะเป็นคล้าย ๆ กับเหวลงไปครับ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมาก จะสามารถไว้น้ำได้เฉพาะหน้าหาดครับผม 
บนเกาะจะมีกระท่อง 1 หลัง ซึ่งกองละครได้มาปลูกเพื่อเซ็ตเป็นฉากไว้ สามารถขึ้นไปถ่ายรูปได้ทีละคนสองคนครับ แต่ห้ามขึ้นไปพร้อม ๆ กันเยอะ เพราะเดี๋ยวมันจะพังได้ เนื่องจากมันเป็นแค่ฉาก จึงไม่มีความคงทนมากนัก
ระวังเม่นทะเลตำเท้า ที่เป็นสีดำ ๆ หนามรอบตัว เพราะยอดของหนามจะมีพิษ ถ้าเราโดนตำจะทำให้รู้สึกปวดมาก (หากท่านใดโดนเม่นทะเลตำเท้า ให้รีบไปบอกเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จะให้ยาแก้ปวดมากิน และปล่อยให้ท่านนั่งปวดอยู่อย่างนั้น 20 นาที แล้วอาการปวดจะดีขึ้น ถ้าหากว่ามีเศษหนามของขนเม่นทะเลฝังอยู่ในเท้า เราสามารถเอาหินทุบเบา (หลังหายปวด) เพราะหินจะทำให้เศษหนามของเม่นนั้นแตกละเอียด แล้วร่างกายเราจะย่อยสลายหนามเม่นนั้นหายไปเองครับ เพราะหนามเม่นประกอบไปด้วย แคลเซ่ยม โปรตีน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกายครับ
ระวังดอกไม้ทะเล อย่าเอามือไปเข้าใกล้ดอกไม้ทะเลมากครับ เพราะรอบ ๆ ดอกไม้ทะเล จะมีการคายสารบางอย่างออกจากตัวดอกไม้ อาจทำให้ระคายเคืองได้ครับ


เกาะแสมสาร





เกาะแสมสาร
ค่าเรือบริการ ไป-กลับ รวมเป็นเงิน 250 บาท ต่างชาติ 500 บาท เด็กตั้งแต่ 3 ปี ไม่เกิน 15 ปีบริบูรณ์ ค่าตั๋ว 200 บาท เด็กที่อายุต่ำกว่า 3 ปี ไม่เสียค่าบริการครับ(เกาะนี้จะไม่มีการแยกตั๋วค่าเรือกับค่าอุปกรณ์ดำน้ำนะครับ เสีย 250 บาทไม่ว่าจะดำน้ำหรือไม่ดำครับ โดยจะจำกัดนักท่องเที่ยว 300 คนต่อวัน เรือมี 3 รอบ รอบละ 100 คน และตั๋วสามารถใช้ได้วันต่อวันครับ)
ค่ารถรับส่งบนเกาะ ฟรี (เพราะเกาะแสมสารมี 2 ชายหาดให้พักผ่อนครับ)
ค่าอุปกรณ์ดำน้ำ ฟรี (ดำได้ทั้ง 2 หาด ครับ )
ค่าเสื้อชูชีพ ฟรี
ค่านั่งเรือท้องกระจกดูประการัง ฟรี
ค่าไกด์ดำน้ำ ฟรี (เป็นทหารครับ จะสอนวิธีการใส่อุปกรณ์และดำน้ำ)
ค่าเช่าปั่นจักรยาน ชมเส้นทางธรรมชาติ 10 บาท
ค่าเตียงผ้าใบ 20 บาท
ค่าห้องน้ำอาบ และ สุขา ฟรี
ถ้าไปในฤดูที่มีแมงกระพรุนเยอะ ๆ จะมีโลชั่นแก้คัน ฟรีครับ แต่ถ้าเยอะมาก เขาจะไม่ลงดำน้ำครับ
บนเกาะจะมี น้ำดื่มและมาม่า ไว้ขายครับ แต่ไม่มีข้าวขายนะครับ

ตารางเที่ยวเรือขาไป
เที่ยวที่ 1  9.00
เที่ยวที่ 2  11.00
เที่ยวที่ 3  13.00

ตารางเที่ยวเรือขากลับ
เที่ยวที่ 1  10.30
เที่ยวที่ 2  12.00
เที่ยวที่ 3  15.00
เที่ยวที่ 4  16.30

กิจกรรมบนเกาะแสมสาร
ดำน้ำ  , นั่งเรือท้องกระจกดูปะการัง , ปั่นจักรยานชมเส้นทางธรรมชาติ , พายเรือพายัค

กฏข้อห้าม
ห้ามนำเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลข้ามไปที่เกาะ
ห้ามใส่บีกินนี่บนเกาะ
ห้ามต่างชาติข้ามไปที่เกาะโดยไม่มีคนไทยไปด้วย

รายละเอียดบนเกาะแสมสาร
บนเกาะแสมสารจะชายหาดที่สามารถเล่นน้ำและดำน้ำได้ 2 ชายหาดครับ คือหาดเทียน และหาดลูกลม
หาดเทียนจะเป็นหาดที่เรือรับส่งมาจอดเทียบท่าครับ ส่วนหาดลูกลมจะต้องนั่งรถรับส่งบนหาดไปอีกทีครับ

ตรงท่าเรือจะมีร้านอาหาร สามารถสั่งอาหารและให้ไปส่งที่เกาะแสมสารได้ครับ (แต่ลองสอบถามกับทางร้านดูอีกทีนะครับเผื่อมีการเปลี่ยนแปลง)

หมายเหตุ เรื่องที่พัก
บนเกาะทั้ง 2 เกาะ ไม่ว่าจะเป็นเกาะแสมสาร หรือเกาะขาม ไม่มีที่พักให้บนเกาะนะครับ เพราะเป็นเกาะที่ได้รับการอนุรักษ์ธรรมชาติไว้ โดยการดูแลของทหารครับ แต่บนฝั่งมีที่พักเยอะแยะมากมายครับ ระหว่างที่ขับรถไปก็สามารถเลือกได้เลยครับมีให้เลือกเยอะตรงเส้นทางแสมสาร และก็ใกล้กับท่าเรือด้วยครับ ส่วนใครนั่งรถไปแถว ๆ ศูนย์อนุรักษ์การดำน้ำ ก็มีที่พัก รีสอร์ทให้เลือกครับ 



เรือหลวงจักรีนฤเบศร




ประวัติความเป็นมา

เมื่อครั้งเกิดพายุไต้ฝุ่นเกย์ในอ่าวไทยบริเวณ จังหวัดชุมพรในปี พ.ศ.2532 กองทัพเรือ ซึ่งเป็นหน่วยงานราชการหลักในการค้นหา และช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ได้ใช้เรือและอากาศยาน ในการค้นหาและช่วยเหลือผู้ ประสบภัย ซึ่งประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ฐานขุดเจาะก๊าซธรรมชาติกลางอ่าวไทยและชาวประมงแต่มีขีดจำกัดในการปฏิบัติการ อันเนื่องจากเรือขนาดใหญ่ที่สุดที่กองทัพเรือมีอยู่ขณะนั้น ไม่สามารถทนสภาพทะเลเมื่อครั้งพายุไต้ฝุ่นเกย์ได้ ทำให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยกระทำได้ด้วยความยากลำบากและไม่ได้ผลตามที่กองทัพเรือต้องการ ประกอบกับภารกิจของกองทัพเรือในการปกป้องอธิปไตยและรักษาผลประโยชน์ของชาติ ทางทะเล ซึ่งในปัจจุบันเขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศไทย ได้ขยายออกไปถึง 200 ไมล์ทะเล

การมีเรือขนาดใหญ่พร้อมอุปกรณ์ทันสมัยจะสามารถใช้ในการค้นหา และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเลได้อย่างรวดเร็วและทันเหตุการณ์ ตลอดจนการมีเฮลิคอปเตอร์ประจำการบนเรือจะช่วยขยายพื้นที่ในการลาดตระเวน และระยะเวลาในการปฏิบัติการในทะเลได้เป็นเวลานานและมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น

กองทัพเรือจึงได้มีแนวความคิด ในการสร้างเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ เพื่อให้สามารถบรรลุภารกิจตามความมุ่งหมาย และได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้ ในการจัดหาเรือและการปฏิบัติภารกิจของเรือ จนกระทั่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อ 17 มีนาคม 2535 อนุมัติให้กองทัพเรือว่าจ้างสร้างเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ ในลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาล จำนวน 1 ลำ จากบริษัทบาซาน ประเทศสเปน ในวงเงินประมาณ 7,100 ล้านบาท และกองทัพเรือได้ลงนามในสัญญาว่าจ้างสร้างเรือเมื่อ 27 มีนาคม 2535

ภายในเรือจักรีนฤเบศรประกอบด้วยห้องต่างๆ ทั้งส่วนที่ใช้ปฏิบัติงาน และห้องพัก รวมกว่า 600 ห้อง โดยมีส่วนหลักๆ ดังนี้

สะพานเดินเรือ เป็นศูนย์กลางการปฏิบัติงานของเรือ
หอบังคับการบิน
ห้องควบคุมการจราจรทางอากาศ
ห้องอุตุนิยมวิทยา
ห้องควบคุมดาดฟ้าบิน
ห้องบรรยายสรุปการบิน
ห้องศูนย์ยุทธการ
ห้องครัว
โรงพยาบาล ขนาด 15 เตียง มีส่วนสำคัญคือห้องผ่าตัด ทันตกรรม และเอกซเรย์


การเข้าเยี่ยมชม

บุคคลทั่วไปสามารถติดต่อขอเยี่ยมชมเรือหลวงจักรีนฤเบศรได้ โดยติดต่อแจ้งวันเวลา และจำนวนบุคคลในคณะที่จะมาเยี่ยมชม และส่งจดหมายไปถึงผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ กองเรือยุทธการ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 20180 (วงเล็บมุมซอง เยี่ยมชมเรือ) หรือโทรศัพท์ 080-5885077 / 038-439479 กองกิจการพลเรือน. กองยุทธการ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของเรือ)

แผนที่ท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ




------------------------------------------------------------------------------------------------


พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ สัตหีบ

ลงรถตู้ที่ปากทางหนองจับเต่าแล้วเหมารถตรงปากทางเข้าไปครับ


ข้อมูล : เขาชีจรรย์ เป็นพระพุทธรูปประทับนั่งปางมารวิชัย เลียนแบบพระพุทธนวราชบพิตร ศิลปะสุโขทัยผสมล้านนา ขนาดความสูง 109 เมตร หน้าตักกว้าง 70 เมตร ฐานบัวหรือบัวบัลลังก์สูง 21 เมตร รวมความสูงขององค์พระและบัลลังก์ทั้งสิ้น 130 เมตร โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ พระราชทานนามพระพุทธรูปแกะสลักด้วยเลเซอร์บนหน้าผาเขาชีจรรย์ วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ว่า พระพุทธมหาวชิร อุตตโมภาสศาสดา มีความหมายว่า "พระพุทธเจ้าทรงเป็นศาสดาที่รุ่งเรือง สว่าง ประเสริฐดุจดังมหาวชิระ" ซึ่งนับเป็นพระพุทธฉายที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ที่ตั้ง : ทางหลวงชนบท ชบ. 5001 ห้วยใหญ่ บางละมุง, ชลบุรี 20150
เวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน
การเดินทาง : ใฃ้ถนนสุขุมวิท แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 6 กิโลเมตร มีป้ายบอกตลอดทาง ให้เข้าทางเดียวกับทางเข้าวัดหนองตับเต่า

------------------------------------------------------------------------------


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น